Accelerating Asia หนุน Easy Rice ซึ่งเป็นการลงทุนครั้งแรกในสตาร์ทอัพไทย ผ่านโครงการบ่มเพาะสตาร์ทอัพเรือธง รุ่นที่ 7 ของบริษัท
Accelerating Asia ซึ่งเป็น VC Accelerator ระดับนานาชาติที่มุ่งเน้นไปที่สตาร์ทอัพในขั้น Pre-Series A ได้ลงทุนใน 10 บริษัทใหม่ทั่วเอเชียแปซิฟิคผ่านโครงการรุ่นที่ 7 ของทางบริษัท
ตั้งแต่ปีพ.ศ.2562 Accelerating Asia ได้ลงทุนให้ผู้ก่อตั้งมากกว่า 100 รายจากสตาร์ทอัพ 60 ราย ทำให้ทางบริษัทเป็นหนึ่งในนักลงทุนที่มีการลงทุนมากที่สุดในสตาร์ทอัพขั้น Pre-Series A ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเอเชียใต้
ปัจจุบันพอร์ตโฟลิโอของบริษัทระดมทุนได้กว่า 55 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยนับตั้งแต่ปีพ.ศ. 2563 การลงทุนด้วยเงินทุนจากภายนอกคิดเป็น 100 เปอร์เซ็นต์ของทั้งหมด
กองทุนที่สอง (Fund II) ของ Accelerating Asia จำนใน20 ล้านดอลลาร์สหรัฐ II ซึ่งเปิดตัวเมื่อสิ้นปี 2564 ลงทุนในสตาร์ทอัพในขั้น Pre-Series A ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเอเชียใต้
ประเทศไทย พฤศจิกายน 2565: Accelerating Asia ซึ่งเป็นบริษัทร่วมลงทุนในธุรกิจระยะเริ่มต้น (early-stage VC fund) ได้ประกาศการลงทุนรอบล่าสุดในวันนี้ ซึ่งรวมถึงบริษัทใหม่ 10 แห่งที่เข้าร่วมในรุ่นที่ 7 ในโปรแกรมเรือธงของบริษัท รวมถึงบริษัท Easy Rice ซึ่งถือเป็นการลงทุนครั้งแรกในสตาร์ทอัพไทย
บริษัท Easy Rice ก่อตั้งโดย ภูวินทร์ คงสวัสดิ์, วิษุวัต ซันเฮม, ณัฐกานต์ วิริยะเกรียง, สุจิตรา สุทธิธาทิพย์ และนวพัฒน์ จำเริญรักษ์ โดยเป็นบริษัทนวัตกรรมและเทคโนโลยีดิจิทัลในด้านเกษตรกรรมที่ทำให้ทำการตรวจสอบคุณภาพอาหารได้ง่ายขึ้นด้วยการใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ โดยกรณีการใช้งานครั้งแรกคือข้าว แต่ทางทีมผู้ก่อตั้งวางแผนที่จะขยายไปสู่อาหารหลักอื่น ๆ เมื่อบริษัทเปิดตัวในตลาดในประเทศอื่น ๆ
คุณ Amra Naidoo หุ้นส่วนทั่วไปของ Accelerating Asia กล่าวว่า Easy Rice เป็นตัวแทนของระบบนิเวศสตาร์ทอัพและเทคในประเทศไทย
“ประเทศไทยเป็นยักษ์หลับ ในขณะที่เพื่อนบ้านในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้หลายประเทศได้รับความ
ความสนใจในด้านเทคโนโลยีก็มีหลายบริษัทอย่างเช่น Easy Rice เกิดขึ้นในประเทศไทย บริษัทเหล่านี้เป็นสตาร์ทอัพที่สามารถผลิตโซลูชันที่เป็นนวัตกรรมใหม่ที่ไม่เพียงแต่ขยายขนาดได้ในประเทศเท่านั้น แต่ยังสามารถขยายไปได้ทั่วโลกในด้านที่ตนถนัด” คุณ Naidoo กล่าว และยังกล่าวเพิ่มเติมอีกว่าเธอต้องการจะเห็นสตาร์ทอัพไทยที่มีการเติบโตสูงสมัครเข้าร่วมโครงการในอนาคตมากขึ้
การลงทุนรอบใหม่นี้จะทำให้ Accelerating Asia มีสตาร์ทอัพรวมถึง Easy Rice อยู่ในพอร์ตโฟลิโอ 60 บริษัท ซึ่งบริษัทเหล่านี้ได้ระดมทุนรวมกว่า 50 ล้านเหรียญสหรัฐ และบริษัทในรุ่นที่ 7 ระดมทุนได้มากกว่า 5.2 ล้านเหรียญสหรัฐก่อนที่จะเข้าร่วมโปรแกรม การลงทุนรอบใหม่ในรุ่นที่ 7 นี้ยังดึงความสนใจจากตลาดและการเติบโตของรายได้ด้วยมูลค่าสินค้ารวมเฉลี่ย (GMV) มากกว่า 46,000 เหรียญสหรัฐต่อ
เดือนและมีรายได้เฉลี่ยต่อเดือนมากกว่า 13,000 เหรียญสหรัฐ
สตาร์ทอัพในรุ่นที่ 7 ครอบคลุมธุรกิจประเภทต่างๆ มากมาย รวมถึงธุรกิจบริการ ซอฟต์แวร์ระดับองค์กร
โทรคมนาคม ความบันเทิง โลจิสติกส์ เทคโนโลยีการค้าปลีก เทคโนโลยีด้านสุขภาพ และอีคอมเมิร์ซ
โดยบริษัทในรุ่นนี้มีตลาดใน 9 ประเทศทั่วเอเชียใต้ (บังคลาเทศ ปากีสถาน) เอเชียตะวันออก (เกาหลี) และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (ฟิลิปปินส์ เมียนมาร์ สิงคโปร์ มาเลเซีย อินโดนีเซีย และไทย)
เช่นเดียวกับ Easy Rice ซึ่งมุ่งเป้าไปที่เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDG) เป้าหมายที่ 8 (การจ้างงานที่มีคุณค่าและการเติบโตทางเศรษฐกิจ) และเป้าหมายที่ 9 (อุตสาหกรรม นวัตกรรม และโครงสร้างพื้นฐาน) บริษัทอื่น ๆ ทั้งหมดร้อยละ 100 ก็กล่าวถึงเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนอย่างน้อยหนึ่งข้อ สตาร์ทอัพใหม่ทั้งสิบบริษัทนี้มีร้อยละ 60 ที่มีผู้ร่วมก่อตั้งเป็นผู้หญิง โดย Easy Rice, Shoplinks, Kooky, BizB, Healthpro.id และ SafeTruck ล้วนมีผู้ร่วมก่อตั้งหญิงอย่างน้อยหนึ่งคนซึ่งถือว่าสูงกว่าพอร์ตโฟลิโอเฉลี่ย เพราะมีเพียงร้อยละ 17.2 ของการลงทุนในบริษัทนอกตลาดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่เป็นการลงทุนในธุรกิจสตาร์ทอัพที่ก่อตั้งโดยผู้หญิง
จากคำกล่าวของ Amra Naidoo หุ้นส่วนทั่วไปของ Accelerating Asia บริษัทในกลุ่มนี้ถือเป็นบริษัทสตาร์ทอัพที่เติบโตเต็มที่มากที่สุดในปัจจุบัน
“สิ่งที่เราเห็นในรุ่นที่ 7 เหมือนเป็นความสำเร็จที่เพิ่มขึ้น สตาร์ทอัพทั้ง 10 บริษัทเหล่านี้ที่เราลงทุนได้ผ่านจุดสำคัญในด้านรายได้ การดึงดูดผู้ใช้ใหม่ และปัจจัยอื่น ๆ มากกว่าที่คุณจะจินตนาการถึงเมื่อกล่าวถึงบริษัทสตาร์ทอัพในระยะเริ่มต้น เราเชื่อว่านี่เป็นสัญญาณเชิงบวกไม่เพียงสำหรับ Accelerating Asia เท่านั้น แต่ยังส่งผลดีต่อระบบนิเวศในเอเชียแปซิฟิกโดยรวม สตาร์ทอัพของเรากำลังค้นพบ
ผลิตภัณฑ์และตลาดที่เข้ากันได้เร็วกว่าที่เคย ทำให้พวกเขาสามารถมุ่งเน้นไปที่การขยายไปสู่การเป็นผู้นำตลาดได้” คุณ Naidoo กล่าว
คุณ Naidoo ยังระบุว่าความสำเร็จที่น่าประทับใจของรุ่นที่ 7 นี้ส่วนหนึ่งมาจากกระบวนการสมัครเข้าร่วมโครงการของสตาร์ทอัพเหล่านี้ โดยตั้งแต่เริ่มเปิดตัวรุ่นที่ 1 ในปีพ.ศ. 2562 Accelerating Asia ก็มีผู้สมัครเข้าร่วมโครงการมากขึ้นอย่างรวดเร็วในแต่ละรอบ โดยในรอบล่าสุดนี้มีผู้สมัครมากถึง 600 รายซึ่งถือว่ามีการเติบโตถึงร้อยละ 232 เมื่อเทียบระหว่างรุ่นแรกกับรุ่นปัจจุบัน
“เมื่อเราเริ่มดำเนินการเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา แนวคิดของ Accelerating Asia ยังถือว่าเป็นวิสัยทัศน์ที่มองไปข้างหน้าสำหรับเอเชียแปซิฟิก ตอนนี้ฉันดีใจที่เห็นว่ามันกำลังไปได้สวย มีบริษัทสตาร์ทอัพจำนวนมากขึ้นเรื่อบ ๆ ที่เติบโตได้เร็วขึ้น ซึ่งเป็นผลมาจากระบบสนับสนุนที่พวกเขาสามารถใช้ได้ ซึ่งรวมทุกอย่างตั้งแต่งานอีเวนต์และการประชุมไปจนถึงนักลงทุนรายย่อยและสมาคมต่าง ๆ ” คุณ Naidoo กล่าว
คุณ Craig Bristol Dixon ผู้ร่วมก่อตั้งและหุ้นส่วนทั่วไป ให้รายละเอียดว่ารุ่นที่ 7 ได้สานต่อความแข็งแกร่งของรุ่นก่อนหน้าอย่างไร
“รุ่นที่ 7 นี้ต่อยอดไปจากรุ่นก่อนหน้าของเรา เรามีผู้ก่อตั้งที่ยอดเยี่ยม ผลิตภัณฑ์ที่เป็นนวัตกรรม และแรงดึงดูดทางการเงินที่น่าประทับใจ ทีมแบบนี้น่าจะประสบความสำเร็จและสร้างผลตอบแทนที่ดีให้แก่การลงทุนของเราและนักลงทุนรายอื่น ๆ ที่สนับสนุนพวกเขา หากคุณต้องการทำงานกับผู้ก่อตั้งที่มีความสามารถเหล่านี้ ลองพิจารณาการเป็นพันธมิตรกับ Accelerating Asia เรามีความยินดีที่จะร่วมงานกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในระบบนิเวศ” คุณ Dixon กล่าว
เนื่องจากบรรยากาศการลงทุนในปัจจุบันเป็นประเด็นร้อน คุณ Dixon จึงต้องการเน้นย้ำด้วยว่า
Accelerating Asia มักจะลงทุนในธุรกิจที่สามารถสร้างรายได้ในปัจจุบันและการมุมมองการลงทุนของเรามุ่งเน้นไปที่แผนการเงินที่ชาญฉลาดและผู้ก่อตั้งที่สามารถสร้างรายได้จากช่องว่างในตลาดในระยะเวลาอันสั้น
“เมื่อพูดถึงการลงทุน ที่ Accelerating Asia เราปฏิบัติตามกลยุทธ์ง่ายๆ หนึ่งเราสนับสนุนองค์กรที่สามารถสร้างรายได้ในทุกสภาวะเศรษฐกิจ และสองผู้ก่อตั้งที่สามารถนำบริษัทผ่านทุกสภาวะตลาด ท้ายที่สุดแล้วองค์กรที่มีนวัตกรรมมากที่สุดจะประสบความสำเร็จในทุกยุค” Dixon กล่าว
Accelerating Asia ได้ เปิดตัวกองทุนที่สอง (Fund II) ในปีพ.ศ. 2564 โดยรุ่นที่ 7 นี้เป็นการลงทนรุ่นที่สามของกองทุนที่สองนี้ ซึ่งจะกระจายเงินทุนไปทั่วสตาร์ทอัพระดับ pre-Series A ในเอเชียใต้และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หากคุณเป็นนักลงทุนที่ได้รับการรับรองที่ต้องการสร้างสตาร์ทอัพระดับ pre-Series A ที่ดีที่สุดในภูมิภาค โปรดติดต่อทีม Accelerating Asia สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการลงทุนร่วมกับเรา
วัน Demo Day ของรุ่นที่ 7 ซึ่งเป็นงานสำหรับผู้ที่ได้รับเชิญเท่านั้นจะจัดขึ้นในวันที่ 2 มีนาคม คุณสามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีการสมัครเข้าร่วมได้ที่นี่ หากคุณสนใจเข้าร่วมโครงการรุ่นต่อไปของเรา สามารถสมัครได้ที่นี่